
ความจริงเป็นสิ่งไม่ ต า ย แต่ความจริงหลาย ๆ อย่างก็ยากที่ยอมรับเหมือนกัน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราว
ในออฟฟิศ ที่คนทำงานต้องเจอกัน ทุกวันนั้น ก็ล้วนมีเรื่องราวบางอย่าง
ที่คนทำงานหลาย ๆ คน ก็อาจจะต้องยอมรับให้ได้แม้ว่า หลาย ๆ ครั้ง อาจจะบั่นทอนกำลังใจ ไปอยู่มากโขทีเดียว
วันนี้ผมเลยลองลิสต์เหตุการณ์ หลายๆอย่างที่ คนทำงานออฟฟิศ
น่าจะเจอกันบ่อย ๆ อย่างน้อย ก็ให้ไว้เตือนใจกันหน่อยแล้วกัน นะครับ
1.เพื่อนร่วมงาน บางคนเหมาะ เป็นแค่เพื่อนร่วมงาน
จริงอยู่ว่าคุณอาจจะสนิทและไว้ใจ เพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนแต่ก็ใช่ว่าทุกคนเหมาะจะกลายเป็นเพื่อนจริง ๆ ของคุณ
ในชีวิตทุกวันนี้เรามักเจอ สถานการณ์ประเภท พอเข้าที่ทำงานใหม่ แล้วก็เพิ่มเพื่อนเฟสกันไปหมดก่อน
จะพบว่าภายหลัง บางคนอยากจะลบเพื่อนไป เสียบางคนอยากจะบล็อคไปเลยด้วย ก็มีทั้งนี้เพราะความสัมพันธ์
ในที่ทำงานนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับ ความสัมพันธ์แบบเพื่อนตั้งแต่ต้นมัน ก็จริงอยู่ว่า คุณอาจจะเจอคนที่ดี
เจอคนที่ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกลาย เป็นพี่ชายกลาย เป็นคนที่เคารพรัก
แต่กับบางคนก็อาจจะดีกว่า ถ้าคงความสัมพันธ์เป็น “เพื่อนร่วมงาน” หรือ คุยกันด้วยเรื่องงานแทนที่ จะคุยด้วยเรื่องส่วนตัว
2. ต่อให้คุณทำดีแทบ ต า ย ก็ใช่ว่าคุณ จะได้รับการโปรโมท
เรื่องนี้เรามักพูดกันบ่อยๆว่าบางคนส ร้างผลงานแทบ ต า ย เป็นคนทำงานที่ใคร ๆก็ชื่นชอบ
แต่กลับไม่ได้เลื่อนขั้น เพราะเหตุผลต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น ทั้งในแง่หัวหน้า
มองไม่เห็นหรือพรีเซนต์ ไม่เก่งถ้าเอาหนักๆไปเลย ก็คือโดนคนอื่ น ตัดหน้าเล่นเส้นเล่น
สายซึ่ง เป็นตัวบั่นทอนกำลังใจอยู่ไม่น้อยทีเดียวกรณีนี้ต้องถือว่าวัดใจกับหัวหน้า
และองค์กร อยู่พอสมควร เพราะถ้าหัวหน้า ของคุณมองเห็นศักยภาพของคุณ
และพร้อมจะสนับสนุนแล้ว คุณก็ช่างโชคดี ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าได้อีกเยอะ
แต่ถ้าคุณดันโชคร้าย ไปอยู่กับหัวหน้าที่ไม่ได้ คิดเรื่องนี้แล้วล่ะ ก็คุณก็อาจจะโดนเก็บเข้าหลังบ้าน เอาได้ง่ายๆเช่นกัน
3.คุณจะได้เงินเดือน น้อยกว่าคนอื่นอยู่วันยังค่ำ
ที่ผมขึ้นแบบนี้ เพราะอยากเตือนคนทั้งหลาย ที่พยายามถามว่าเงินเดือนคนอื่นเท่าไร
เพราะถ้าคุณเมื่อไร ที่คุณตั้งคำถามว่าคนอื่นได้ เงินเดือนเท่าไร แล้วยังไงคุณก็
จะเจอคนที่มีเงินเดือน มากกว่า คุณอยู่ดีแม้ว่าในบริษัท จะไม่มีคนเงินเดือนมากกว่า
คุณแต่คุณ ก็จะไปรู้ว่าบริษัทอื่น ให้เงินเดือนมากกว่าวนไป วนมาแบบนี้
ถ้าคุณไม่ยอมรับ ความพอดีของเงินเดือน คุณคุณก็จะต้องเจอ ความจริงข้อนี้
วนไปวนมาไม่รู้จักจบสิ้นหรอกครับผมเขียน10ข้อนี้ด้วยการนึกประสบการณ์ส่วนตัวประกอบไปด้วยถ้าคุณ
มีข้ออื่นๆที่คิดว่าเข้าท่าเหมือนกันก็ลองเมนต์มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
4. ไม่มีใครทำงานได้ทุกอย่าง
แม้ว่าเราจะชอบ มีคำพูดประเภท คนเราสามารถเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็นได้
ถ้าพยายามมันเลย ทำให้หลายๆคน มักมีความคิดเรื่อง การโยกย้ายตำแหน่ง
บ้างก็อยากลองไปทำงาน ในแผนกอื่น ๆ ที่ดูน่าสนใจกว่าดูน่าทำงานมากกว่างานของตัวเอง
แต่เชื่อเถอะครับว่าเอาเข้าจริงแล้ว การไปทำงานที่ตัวเอง ไม่เคยทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
และมีน้อยคน ที่จะสามารถไปทำงานใหม่ ได้อย่างประสบความสำเร็จ อาจจะมีบ้าง
ที่พอสามารถทำงานกันไปได้แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นหรือ“ถูกหวย”แบบที่คนเก่งๆหลายคน
เอามาเหล่าให้ฟังกันหรอกทั้งนี้ เราต้องพูดกันบนความเป็นจริงว่าการทำงานต่าง ๆ นั้น
จำเป็นต้องใช้ทักษะและความสามารถหลายอย่างบางอย่างฝึกกันได้แต่บางอย่าง
ฝึกกันไม่ได้ บางอย่างอาจจะฝึกได้ แต่ต้องใช้เวลาซึ่งการทำงานมันรอไม่ได้ขนาดนั้น
ฉะนั้น ถ้าคุณคิดว่าจะลองเปลี่ยน สายงานอยากไปทดลองงานใหม่ ๆ นั้น ควรคิดกันให้ดีๆ
ว่าคุณเหมาะและพร้อมจะไปลองจริงๆนะครับ
5.ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบคุณไปหมด
ต่อให้คุณเป็นคนดี มากมาย ในออฟฟิศแต่เชื่อเถอะครับ ว่ามันก็จะมีคนที่ไม่ชอบคุณ
ไม่ถูกกับคุณจนได้ ฉ ะนั้น มันจึงเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ถ้าคุณคิดจะไปเอาใจและ
หวังให้ทุกคน ในบริษัทรักคุณ (ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว) คุณควรจะเลือกดูว่าคนไหนบ้าง
ที่คุณควรให้ความสำคัญใครกัน ที่คุณควรจะแคร์ และใส่ใจเป็นพิเศษคุณอาจจะ
ต้องแบ่งระดับความสำคัญ ของความสัมพันธ์กัน ให้ดี ๆ แล้วดูว่า แต่ละคนอยู่ในระดับไหน อย่างไร
ก็ตามแม้ว่าคุณจะไม่สามารถทำให้ทุกคนรักคุณได้แต่อย่างน้อยก็ใช่ว่า
คุณจะต้องสร้างศัตรูให้เยอะเต็มออฟฟิศนะครับ
6.วันนึงเพื่อนร่วมงาน หรือ ไม่ก็คุณเองที่จะลาออก
แม้ว่าหลายๆครั้งคุณจะเจอเพื่อนร่วมงาน ที่คุณรักมากเชื่อใจมาก หรือ ได้เจอหัวหน้าที่คุณรู้สึกว่า
สุดยอดมาก ๆ อยากฝากชีวิตไว้ กับ เขาอยากทำงานร่วม กับ เขาไปนานๆ
แต่ความเป็นจริงแล้ว วันหนึ่งคุณก็จะต้องแยกย้ายกัน อยู่ดีเพราะแต่ละคนก็ต้องมี
ทางชีวิตด้านหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน ออกไปลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าคุณทำงาน
แผนกเดียวกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ 5 คนไปเรื่อย ๆ มันคงไม่สามารถ ที่ทั้ง
7.ทุกออฟฟิศมีการเมือง
“ที่นี่มี การเมืองไหม” เป็นคำถามที่ ผมมักจะได้ยินบ่อย ๆ เวลาคนเปลี่ยน ที่ทำงานซึ่ง
ถ้าคนที่ผ่านงานมากมาย หลายออฟฟิศ ก็จะพูดเหมือนกัน แหละว่า “ที่ไหนๆก็มีการเมือง”
ทั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาว่า ในออฟฟิศนั้นล้วน มีคนหมู ่ มากเข้ามาอยู่ด้วยกัน
มันก็ย่อมมีคนบางกลุ่มที่มีคาแรคเตอร์ ต่างจากอีกกลุ่มไหน จะมีเรื่องการเปลี่ยนถ่าย
คนตามกาลเวลามันเลยไม่แปลก ที่จะเกิดการแบ่งพรรค แบ่งพวกขึ้น
ซึ่งไอ้พรรคพวกนี้แหละ ที่มักจะนำไปสู่ความขัดแย้งลึก ๆ กัน
โดยไม่รู้ตัวและกลายเป็นเรื่องการเมือง ระหว่างขั้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พอเป็นเช่นนี้เราถึงพูดกันเสมอว่า คุณคงไม่สามารถเลี่ยงการเมืองในออฟฟิศได้
หากแต่คุณจะเลี่ยงมันได้ แค่ไหน หรือในออฟฟิศนั้น
จะรักษาระดับความรุนแรงที่เกิดจากการเมืองได้อย่างไรต่างหาก
8.เรื่องที่ถูกต้องอาจจะไม่ใช่เรื่องที่คุณ (หรือคนอื่น) ถูกใจ
สิ่งที่คนทำงานมักจะเจอบ่อยๆคือคำสั่งจาก “เบื้องบน”ที่หลายๆครั้งก็ฟังแล้ว ตะหงิดๆประเภทใช่เหรอ
มันถูกต้องเหรอและพอ เรานำเสนอสิ่งที่ เราคิดว่าถูกต้องแล้วก็ ดันกลายเป็นว่าไม่ถูกใจ
หัวหน้าหรือคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปเรื่องนี้มันเลย เข้าวัฏจักรที่ว่าหลาย ๆ
อย่างที่คุณคิดว่ามัน “ถูกต้อง” มันก็อาจจะไม่ได้“ถูกใจ”เสมอไป
(เช่นเดียวกับเรื่องที่หลายๆคน“ถูกใจ”มันก็ไม่ได้“ถูกต้อง”เช่นกัน)
ซึ่งเมื่อเราทำงานไป เรื่อย ๆ นั้น ก็จะเจอสถานการณ์
ของความขัดแย้งนี้ อยู่เรื่อยๆเป็นธรรมดานั่นแหละครับ
9.คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์นั้นจริงๆหรอก
ต่อให้คุณได้รับ ตำแหน่งเป็นผู้จัดการ / หัวหน้าแผนก หรือเ ป็นผู้บริหารแบรนด์อะไร
ก็แล้วแต่ที่ได้รับอำนาจมากมาย ในการตัดสินใจ สร้างสรรค์ หรือ ขีดเส้นต่าง ๆ
เพื่อการบริหารจัดการ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณก็ไม่ได้เป็นเจ้าของมันจริง ๆ
แต่อย่างใดเพราะท้ายที่สุดมัน ก็คือสินทรัพย์ของบริษัท ซึ่งวันหนึ่งผู้บริหารอาจจะสั่งยกเลิก
สั่งเปลี่ยนหรือสั่งย้ายคุณได้(เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบริษัท และสร้างมันขึ้นมาเอ งนั่นก็อีกเรื่อง)
ฉะนั้น แล้วมันก็ดีถ้าคุณจะทุ่มเทและใส่ใจ งานของคุณอย่างเต็มที่ ประหนึ่งลูกแท้ ๆ
ของคุณแต่คุณก็ต้องรู้ตัวว่าวันหนึ่ง คุณก็จะต้องลาออกจากบริษัท
และคุณก็ไม่สามารถเอาแบรนด์หรือสินค้านั้นติดตัวคุณไปได้แต่อย่างใดหรอก
10.หลายๆอย่างคุณทำเองได้ดีกว่า แต่คุณดันไม่ได้ทำงานนั้น
คนเป็นหัวหน้านั้นมักจะเจอสถานการณ์บ่อยๆประเภทเรื่องที่สั่งงานไปนั้น คุณรู้ว่าทำอย่างไร
ให้ดีทำอย่างไรให้เร็วและมีประสิทธิภาพ แต่พอลูกน้องไปทำแล้ว ดันไม่ได้ดั่งใจบ้าง
ก็รู้ว่าสามารถสร้างงาน ที่ดีกว่านี้ ได้แต่คนอื่นดันทำไม่ได้และหลาย ๆ ครั้งมันก็สร้างความหงุดหงิด
ให้กับคุณเพราะมันไม่ได้ดั่งใจ ที่คุณวางไว้แต่ก็นั่นแหละ ครับว่าทั้งบริษัท
ไม่ได้มีคุณคนเดียว และคุณก็ต้องยอมรับความจริงว่า หลายๆอย่างนั้น
คงไม่อาจได้ดั่งใจคุณแต่มัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ คุณจะทำมันเสีย ทุกอย่างเช่นกัน
ขอบคุณ : s a m r e j